เมื่อถึงเวลาต้อเปลี่ยนผ้าเบรกหลาย ๆ คนมักสงสัยว่า ผ้าเบรกมีกี่ชนิด และควรเลือกใช้แบบไหนดี ซึ่งบางครั้งการเลือกใช้ของแพงก็ไม่ได้ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเสมอไป ดังนั้นเราจึงนำผ้าเบรกประเภทต่างต่าง ๆ มาแนะนำเพื่อเป็นแนวทางการเลือกใช้งาน
ผ้าเบรกมีกี่ชนิด แตกต่างกันอย่างไร
ผ้าเบรกที่มีส่วนผสมของสาร Asbestos
เป็นกลุ่มผ้าเบรก Standart ใช้งานทั่วไป ใช้ง่าย ราคาไม่สูง ในช่วงที่ใช้ความเร็วต่ำจะยึดจับได้ดี แน่นนุ่มนวลไม่กินจานจนทำให้เกิดรอยมากนัก แต่เมื่อมีการใช้ความเร็วที่สูงมีความร้อนสะสมมากขึ้นผ้าเบรกชนิดนี้จะมีประสิทธิภาพในการเบรกลดลง นอกจากนี้ Asbestos ตัวนี้ยังมีผลเสียต่อร่างกาย ฝุ่นผงของเศษผ้าเบรกจะออกมาปะปนในอากาศ หรือสร้างคราบสกปรกติดที่ล้อรถได้ ทำให้ไม่เหมาะต่อการใช้งานที่ต้องเบรกหนัก ๆ ในความเร็วที่สูงต่อเนื่องเพราะอาจส่งผลให้เกิดอาการเบรกหาย ไม่มีแรงดันในระบบเบรกทำให้ไม่สามารถหยุดรถได้ หรือที่เรียกว่าอาการเบรก Fade นั่นเอง ซึ่งถือว่าอันตรายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ผ้าเบรกที่ไม่มีส่วนผสมของสาร Asbestos
ผ้าเบรกชนิดนี้จะมีการใช้งานที่พิเศษกว่ากลุ่มแรก ซึ่งทำให้มีราคาที่สูงกว่าเพราะมีการผสมสารกลุ่ม metallic จึงเหมาะกับรถที่ใช้ความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง มีการเบรกบ่อย ๆ โดยผ้าเบรกจะมีคุณสมบัติทนความร้อนได้สูง สามารถรองรับการใช้เบรกหนัก ๆ ได้ดีกว่าแบบแรก แต่ข้อเสียที่พบก็คือในช่วงเวลาที่เบรกเย็นการทำงานจะไม่เต็มประสิทธิภาพอาจมีอาการลื่นหรือไหลบ้างต้องใช้การวอร์มให้มีความร้อนสะสมก็จะทำให้การเบรกดีขึ้น นอกจากนี้ด้วยความที่จะมีความทนทานสูงก็อาจทำให้จานเบรกเป็นรอยได้ง่ายสึกหรอได้เร็วมากขึ้น
ควรเปลี่ยนผ้าเบรกเมื่อไหร่
ระยะเวลาในการเปลี่ยนผ้าเบรกไม่มีกำหนดตายตัว แต่แนะนำว่าควรเช็กทุก ๆ 3 เดือน หรือ 5,000 กิโลเมตร ส่วนอายุการใช้งานก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการใช้เบรก ชนิดผาผ้าเบรก น้ำหนักของรถ โดยรถรุ่นใหม่ที่หน้าปัดจะมีสัญญาณเตือนเมื่อถึงระยะที่ผ้าเบรกจะหมด หากเป็นรถรุ่นเก่าจะมีการเตือนด้วยเสียงที่เกิดจากแผ่นเหล็กที่ติดอยู่ที่ผ้าเบรก จะเสียดสีกับจานเบรก ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าควรเปลี่ยนได้แล้ว
มาถึงตรงนี้คงจะรู้กันแล้วว่า ผ้าเบรกมีกี่ชนิด แล้วเมื่อไหร่จะถึงเวลาเปลี่ยน ซึ่งการเลือกใช้ก็ควรเหมาะสมต่อการใช้งานเพื่อให้เกิดประโยชน์คุ้มค่า และทำให้การขับขี่มีความปลอดภัยสูงสุดนั้นเอง
